คออาหารอีสานแซ่บๆจะต้องรู้จักเมนูนี้ กับเมนู “หมกหน่อไม้” อาหารอีสานทำง่าย หอมกลิ่นสมุนไพร รสชาติกลมกล่อม นัวปลาร้า ตัวเอกของเมนูนี้ก็คือหน่อไม้สดหวานๆ ที่นำมาคลุกเคล้ากับส่วนผสมอื่นๆได้อย่างลงตัว ใครกำลังหากับแกล้มเย็นนี้อยู่รีบมาจดสูตรเลย
หมก เป็นคำกริยาที่หมายถึงการ ห่อ หมกหน่อไม้คือการนำหน่อไม้มาผสมกับเครื่องปรุงและเนื้อสัตว์ แล้วนำมาห่อใบตอง จากนั้นนำไปนึ่งจนสุก จะได้รสชาติที่กลมกล่อมและความหอมจากใบตอง เป็นการกินอาหารประเภทหน่อไม้อีกรูปแบบหนึ่งที่มีรสชาติต่างออกไปจากเมนูแกง อ่อมหรือเมนูผัดต่างๆ
นอกจากส้มตำ ลาบ ก็มีหมกหน่อไม้ที่เป็นเมนูเหมาะกับการจิ้มข้าวเหนียวมากที่สุด แถมยังทำง่าย ขั้นตอนการทำไม่ยุ่งยากอย่างที่คิด รสชาติออกนัวๆน้ำปลาร้า กลมกล่อม หอมกลิ่นใบตอง
หมกหน่อไม้ใส่ไก่ (สูตรอีสานแท้ๆ)
ส่วนผสมหมกหน่อไม้
• หน่อไม้ต้มสุก 500 กรัม
• เนื้อไก่ 250 กรัม
• น้ำใบย่านางคั้น 450 มิลลิลิตร
• ต้นหอม 6 ต้น
• ใบแมงลัก 1 ถ้วยตวง
• ตะไคร้ซอย 3 ต้น
• พริกจินดาสด 7 เม็ด
• หอมแดง 8 หัว
• ผงปรุงรสไก่ 1 ช้อนชา
• เกลือป่น 1 ช้อนชา
• น้ำปลาร้า 4 ช้อนโต๊ะ
• ข้าวเบือ 3 ช้อนโต๊ะ (ข้าวเหนียวที่แช่น้ำไว้จนเมล็ดข้าวมีสีขาวขุ่น นำขึ้นให้สะเด็ดน้ำแล้วมาโขลกให้ละเอียด)
วิธีทำหมกหน่อไม้
1. ตั้งหม้อด้วยไฟกลาง ใส่น้ำย่านางคั้นลงไปจากนั้นนำหน่อไม้ใส่ลงไปเคี่ยวจนน้ำงวด
2. โขกตะไคร้และเกลือป่นให้แหลก ตามด้วยพริกจินดา หอมแดงและข้าวเบือ โขลกให้ละเอียดเข้ากันดี
3. นำเครื่องที่โขลกไว้มาผสมกับเนื้อไก่ให้เข้ากัน
4. ตักหน่อไม้ที่เคี่ยวไว้ใส่ลงไปในครก ตามด้วยต้นหอม ใบโหระพา ใบแมงลัก
5. ปรุงรสด้วยน้ำปลาร้าและผงปรุงรส
6. เมื่อส่วนผสมทั้งหมดเข้ากันดีแล้วนำมาห่อด้วยใบตอง
7. นำหมกหน่อไม้ที่ห่อเสร็จแล้วไปนึ่งจนสุกประมาณ 10-15 นาที
หมกหน่อไม้หมูสามชั้น
ส่วนผสม
• หน่อไม้ซอยเป็นเส้น 500 กรัม
• หมูสามชั้น 200 กรัม
• น้ำใบย่านาง 1 ถ้วยตวง
• ข้าวเหนียว 5 ช้อนโต๊ะ
• หอมแดง 4 หัว
• ใบแมงลัก 10 ใบ
• พริกแห้ง 20 เม็ด
• ตะไคร้ 1 ต้น
• น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลาร้า 1 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. แช่ข้าวเหนียวในน้ำจนเม็ดข้าวเป็นสีขาวขุ่น
3. ต้มหน่อไม้ 1-2 น้ำ หรือจนกว่าจะหายขม
4. นำข้าวเหนียวที่แช่น้ำไว้มาซาวน้ำออก แล้วโขลกรวมกับพริกแห้ง ตะไคร้ หอมแดง
5. ต้มหน่อไม้ด้วยน้ำใบย่านาง จากนั้นใส่ส่วนผสมที่ตำไว้ลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำปลาร้า ใส่หมูตามลงไปคลุกเคล้าให้เข้ากัน
6. นำส่วนผสมที่คลุกเคล้าเข้ากันดีแล้วมาห่อใบตอง แล้วนำไปนึ่งให้สุกประมาณ 10-15 นาที
หมกหน่อไม้ (หมกหม้อ)
หมกหน่อไม้สูตรนี้ไม่ต้องห่อ เหมาะสำหรับผู้ที่ไม่มีใบตอง
ส่วนผสม
• หน่อไม้สด 500 กรัม
• หมูสามชั้น 400 กรัม
• ข้าวเบือ 3 ช้อนโต๊ะ
• ตะไคร้ 2 ต้น
• ข่า 1 หัว
• หอมแดง 5-7 หัว
• พริกแห้ง 10 เม็ด
• พริกกะเหรี่ยง 10 เม็ด
• น้ำปลา 2 ช้อนโต๊ะ
• น้ำปลาร้า 1 ทัพพี
• น้ำตาลทราย 1/2 ช้อนโต๊ะ
• ผงปรุงรส 1/2 ช้อนโต๊ะ
• เกลือป่น 1/2 ช้อนโต๊ะ
• ใบแมงลัก 10-15 ใบ
• ใบมะกรูด 5-6 ใบ
• ต้นหอม 1 ต้น
• น้ำใบย่านาง 1 ถ้วยตวง
วิธีทำ
1. ล้างหมูสามชั้น ผักต่างๆ ปลอกเปลือกหน่อไม้แล้วล้างให้สะอาด นำข้าวเหนียวมาแช่น้ำจนเมล็ดข้าวเปลี่ยนเป็นสีขาวขุ่น จากนั้นนำมาตำให้ละเอียดเตรียมไว้
2. โขลกเครื่องแกง พริกแห้ง ข่า ตะไคร้ หอมแดงให้พอหยาบเตรียมไว้
3. นำหน่อไม้สดไปต้มด้วยน้ำสะอาดประมาณ 1-2 ครั้ง จากนั้นนำมาหั่นเป็นเส้นๆ หรือใช้ส้อมขูดหน่อไม้ให้เป็นเส้นเล็กๆ แล้วนำไปต้มต่ออีก 1 ครั้งโดยใส่เกลือป่นลงไปด้วย เพื่อลดความขม ความเฝื่อนของหน่อไม้ ต้มในน้ำเดือดประมาณ 10 นาที เทน้ำออกพักให้สะเด็ดน้ำ
4. ใส่หน่อไม้ต้มลงในหม้อ นำข้าวเบือและเครื่องแกงที่โขลกไว้ใส่ลงไป ปรุงรสด้วยน้ำปลา น้ำปลาร้า น้ำตาลทรายและผงปรุงรส คลุกเคล้าให้เข้ากัน
5. เทน้ำใบย่านางคั้นลงไป ชิมรสชาติตามชอบ จากนั้นใส่หมูสามชั้นลงไป โรยด้วยใบมะกรูดฉีกเพื่อเพิ่มความหอม
6. เปิดแก๊สใช้ไฟกลาง นำส่วนผสมที่ได้ไปต้มจนน้ำเริ่มงวด หมั่นคนเรื่อยๆ เมื่อน้ำแห้งลงแล้วให้เหลือน้ำไว้พอคลุกคลิก ใส่ใบแมงลัก ต้นหอมและพริกกะเหรี่ยงลงไป คลุกเคล้าให้เข้ากันอีกรอบเป็นอันเสร็จเรียบร้อย
หมกหน่อไม้วิธีนี้เป็นวิธีที่ทำง่ายที่สุด เพราะไม่ต้องห่อใบตองแล้วนำไปนึ่ง ช่วยประหยัดเวลาลงไปได้เยอะเลย หน่อไม้กรอบๆ หมูสามชั้นนุ่มๆ กลิ่นหอมของใบแมงลักบวกกับความเผ็ดร้อนจากพริกกะเหรี่ยง เหมาะกับข้าวเหนียวหรือข้าวสวยร้อนๆเป็นที่สุด
ในหน่อไม้มีเส้นใยสูง รสขมปนหวาน มีสรรพคุณร้อนที่ช่วยในการขับปัสสาวะ เชื่อกันว่าเป็นยาล้างโลหิตระดูที่เสียด้วย ส่วนใบย่านางมีแคลเซียมสูง อุดมไปด้วยคลอโรฟิลล์ วิตามินเอ วิตามินบี 1, บี 2, บี 3, วิตามินซี แคลเซียม ฟอสฟอรัส ธาตุเหล็ก เบต้าแคโรทีน แถมยังมีสรรพคุณเป็นยาถอนพิษอีกด้วย
ใครชอบกินอาหารอีสานต้องลิสต์เมนูนี้ไว้เลย หมกหน่อไม้เป็นอาหารที่กินง่าย รสชาติกลมกล่อม ไม่เผ็ดมาก ให้คุณค่าทางโภชนาการสูง ใครไม่สะดวกทำก็สามารถหาซื้อได้ตามร้านขายอาหารอีสานได้เลย
อ่านบทความเพิ่มที่ สูตรอาหารอีสาน
เครดิตภาพทั้งหมดจาก canva.com