ผักกูด ผักพื้นบ้านที่อุดมไปด้วยคุณประโยชน์มากมาย ทั้งเป็นสมุนไพรรักษาโรค และนำมาทำอาหารได้หลายชนิด เช่น ผักกูดผัดน้ำมันหอย ผักกูดลวกจิ้มน้ำพริก ยำผักกูด เป็นต้น
ผักกูดเป็นพืชชนิดหนึ่งที่อยู่ในตระกูลเฟิร์น สามารถนำมาปรุงอาหารได้ แถมยังใช้เป็นยาสมุนไพรได้อีกด้วย ผักกูดมักจะขึ้นอยู่ตามริมน้ำหรือพื้นที่ที่เต็มไปด้วยน้ำล้อมรอบ พบมากในช่วงฤดูฝน เป็นช่วงที่พืชผักเจริญเติบโตได้ดีที่สุด หากบริเวณไหนที่มีผักกูดขึ้นเยอะแสดงว่าเป็นบริเวณที่สภาพอากาศดี ดินบริสุทธิ์ ไม่มีสารเคมีเจือปน เพราะผักกูดเป็นเหมือนดัชนีชี้วัดที่บ่งบอกถึงสภาพแวดล้อมที่ดีได้
ผักกูดที่นำมาปรุงอาหารได้คือในส่วนของใบอ่อน ช่ออ่อนหรือยอดผัก นิยมนำมาลวกจิ้มน้ำพริก ตามร้านอาหารนิยมนำมาทำเมนูผักกูดผัดน้ำมันหอย แต่ผักกูดจะมียางและเมือกอยู่ที่ก้าน จึงไม่นิยมนำมากินสด ใบของผักกูดมีลักษณะเป็นเกล็ด ใบเล็กๆแยกออกมาเป็นซี่คล้ายกับใบเฟิร์น ผักกูดมีหลายชนิดและมีรสชาติที่แตกต่างกันไป บางชนิดอาจมีรสขม
ผักกูดเป็นพืชที่อุดมไปด้วยสารอาหารมากมาย มีสรรพคุณทางยาอยู่หลายอย่าง ดั่งคำโบราณที่ว่ากินผักเพื่อใช้เป็นยารักษาโรค
ประโยชน์ของผักกูด
1. ช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันและต่อต้านอนุมูลอิสระ เสริมสร้างร่างกายให้แข็งแรง
2. อุดมไปด้วยธาตุเหล็กและเบต้าแคโรทีน เมื่อกินร่วมกับเนื้อสัตว์จะช่วยให้ร่างกายดูดซึมแร่ธาตุต่างๆได้ดียิ่งขึ้น
3. เมื่อนำใบผักกูดมาต้มแล้วดื่มแทนน้ำเปล่า จะมีสรรพคุณช่วยแก้อาการตัวร้อน ลดไข้ได้
4. มีคุณสมบัติช่วยดับร้อน ทำให้ร่างกายสามารถปรับสภาพอุณหภูมิได้ง่าย
5. ผักกูดช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลในเม็ดเลือดได้
6. เนื่องจากผักกูดมีธาตุเหล็กสูง จึงมีประโยชน์ในเรื่องของการบำรุงโลหิต
7. ใบของผักกูดช่วยแก้โรคโลหิตจาง บำรุงสายตา ช่วยลดความดันโลหิตสูงและป้องกันโรคเลือดออกตามไรฟัน
8. มีใยอาหารสูง ช่วยในเรื่องของระบบขับถ่ายได้เป็นอย่างดี
9. มีสรรพคุณในการห้ามเลือด เมื่อมีแผลสดเลือดออก ให้นำผักกูดมายีหรือตำ แล้วนำมาโปะบริเวณแผลไว้สักพัก จะทำให้เลือดหยุดไหลได้เร็วขึ้น แถมยังช่วยป้องกันการติดเชื้อที่แผลได้อีกด้วย
10. ช่วยแก้พิษอักเสบ แก้ผื่นคัน โดยการนำผักกูดมาแช่น้ำประมาณ 30 นาที แล้วนำน้ำมาอาบ จะช่วยให้อาการคันบนผิวหนังลดลงได้
11. ผักกูดสามารถใช้รักษาโรคริดสีดวงทวารได้ โดยนำหัวของผักกูด เมล็ดมะกอก รากถั่วพู เปลือกมะเดื่อและรากกระทุงหมาบ้า มาฝนให้ละเอียดจนเป็นผง แล้วนำมาชงกับน้ำซาวข้าวดื่มครั้งละ 1 แก้ว 3 เวลาหลังอาหารเป็นประจำ
12. มีสรรพคุณช่วยขับปัสสาวะ พร้อมทั้งขับสารพิษและสิ่งตกค้างในร่างกายให้ออกมากับปัสสาวะด้วย โดยนำใบผักกูดมาต้มกับน้ำสะอาด กรองเอาเศษออกแล้วนำมาดื่มวันละ 1 ครั้ง จะช่วยขับปัสสาวะออกมาได้ดี
ข้อควรระวัง
ไม่ควรกินผักกูดแบบดิบๆหรือกินสดๆ เนื่องจากในผักกูดมีสารออกซาเลตในปริมาณสูง ซึ่งอาจทำให้เกิดไตอักเสบและทำให้เป็นนิ่วได้ แนะนำให้ต้มหรือปรุงให้สุกก่อน เมื่อผักกูดโดนความร้อนสารออกซาเลตจะสลายออกไป จึงไม่ทำให้เป็นอันตราย
เมนูอาหารยอดนิยมจากผักกูด
ผักกูดนำมาทำอาหารได้หลายชนิด ทั้งต้ม ผัด แกง ทอด ที่เรานิยมเห็นตามร้านอาหารกันบ่อยๆก็คือยำผักกูดกุ้งสด ผักกูดผัดน้ำมันหอย ไข่เจียวผักกูด แกงส้มปลาอ่อนใส่ผักกูด และเมนูเบสิคอย่างผักกูดลวกจิ้มน้ำพริก วันนี้จะขอแนะนำเมนูที่ทำง่ายที่สุดซึ่งก็คือ ผักกูดผัดน้ำมันหอย ทำง่าย แถมยังดีต่อสุขภาพด้วย
ส่วนผสม
• ยอดอ่อนผักกูด 2 ถ้วยตวง
• กระเทียม 6-8 กลีบ
• น้ำมันหอย 2 ช้อนโต๊ะ
• พริกไทยป่นเล็กน้อย
• น้ำมันพืชสำหรับผัด 2 ช้อนโต๊ะ
วิธีทำ
1. ต้มน้ำให้เดือด นำผักกูดลงไปลวกแล้วตัดขึ้นแช่น้ำเย็นจัดทันที เพื่อคงความกรอบของผัก
2. ตั้งกระทะโดยใช้ไฟแรง ใส่น้ำมันพืชลงไปรอให้ร้อน
3. ใส่ผักกูด กระเทียม ปรุงรสด้วยน้ำมันหอยและพริกไทยป่น แนะนำให้ผัดอย่างรวดเร็วเพื่อให้ผักกูดกรอบ ไม่เละ
เมนูผักกูดผัดน้ำมันหอย น้ำมันที่ใช้ในการผัดจะช่วยละลายวิตามินในผักกูด ทำให้สามารถดูดซึมวิตามินเข้าสู่ร่างกายได้ดี เป็นอีกหนึ่งเมนูที่ได้รับความนิยมเนื่องจากทำง่าย ได้คุณค่าทางอาหารสูง สามารถกินได้ทุกวัย
แถวบ้านใครที่มีผักกูดขึ้นอยู่จำนวนมาก ถือว่าโชคดีมากๆเลย เพราะเป็นผักที่มีวิตามินและแร่ธาตุหลายชนิด แถมยังมีสรรพคุณในการบำรุงร่างกายให้แข็งแรง ป้องกันโรคร้ายต่างๆได้หลายชนิด นำมาทำได้หลายเมนู ทั้งผักกูดผัดน้ำมันหอย ไข่เจียวผักกูด หรือจะกินง่ายๆอย่างผักกูดลวกจิ้มน้ำพริก สามารถกินได้ทุกวันเลย รับรองว่าจะได้รับประโยชน์มากมายจากผักกูด มีสุขภาพแข็งแรงอย่างแน่นอน
อ่านบทความเพิ่มเติมที่ สูตรอาหารภาคใต้
เครดิตภาพจาก canva.com